[SF] Aufstand #ขบถนัมซง
. (Rate 18+)
AUFSTAND.
เคยได้ยินมั้ยว่าถ้าขึ้นหลังเสือแล้วมันลงยาก ถึงจะลงได้แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น คิดว่าเสือมันจะโง่พอที่จะปล่อยมื้ออาหารอันโอชะให้หลุดไปแล้วมองดูด้วยสายตารักใคร่งั้นหรือ? หึ สวยงามขาวสะอาดผุดผ่องกว่าทุ่งดอกบัวฉัตรก็ความคิดมันนี่แหละ สิ้นคิดชะมัด
"อยากจะขำให้ฟันร่วง" แก้วบรั่นดีในมือถูกบรรจงวางลงบนแท่นแก้วเนื้อดี สายตาคมเหลือบเชยขึ้นมองพนักงานหนุ่มที่ยืนอยู่สักมุมของห้อง กระดิกนิ้วชี้เบาๆ อย่างเข้าใจว่าต้องการอะไร อาร์มายัคไหลรินลงสู่ภาชนะ เกลือและเลมอนถูกผสมลงไปด้วยปริมาณถูกใจคนจิบ กลั้วแก้วเบาๆ แล้วมองน้ำแข็งในแก้วที่เริ่มจะละลาย ไม่รู้ละลายเพราะทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์หรือเพราะสายตาที่กำลังจ้องกันแน่
"เอาไงล่ะ?" อีกคนในห้องถามขึ้น
"หึ" เสียงทุ้มต่ำนั้นดูเหยียดหยามอยู่ในที ช่างโง่นัก ทำตัวเป็นไอ้นกต่อสองสามหัวเพื่อรักษาชีพตัวเอง โถ... ลูกนกตัวน้อยเพิ่งจะออกจากรัง นี่ไม่รู้ว่ามันโง่หรือไม่เคยฉลาดกันแน่ "จะเก็บไว้ให้รกโลกทำไมกัน"
ไม่มีแม้แต่ความปราณี น้ำเสียงทุ้มลึกที่กรีดออกมาจากลำคอนั้นช่างน่ากลัว แทบทนฟังไม่ได้
นั่นมันไร้จิตแห่งความเป็นคนเกินไปแล้ว!
------------------------------------------------
เสียงฝีเท้าที่วิ่งอยู่ด้านนอกทำให้จิตสั่นขวัญกระเจิง สติแตกกระจายเหมือนแก้วใส่น้ำที่ถูกเขวี้ยงลงมาจากที่สูง แตกละเอียดและหลอมกลับคืนที่ยาก เขาเหนื่อยจนลมหายใจจะขาดไปจากปอด แต่เพราะความกลัวที่ท่วมท้นอยู่ในใจจึงได้แต่พยายามกระเบียดกระเสียดลมหายใจอย่างช้าๆ เพื่อให้เสียงหอบหายใจเบาที่สุดท่าที่จะสามารถทำได้
ตรอกคับแคบและสกปรกโสโครกส่งกลิ่นเหม็นหืนไปทั่วบริเวณกว้าง มันไม่ใช่ที่มาวิ่งเล่นไล่จับ ไม่ใช่ที่จะย่างกรายเข้ามาในภาวะปกติ แต่ตอนนี้นัมแทฮยอนอยู่ที่นี่ อยู่ในดงขยะอันน่าสะอิดสะเอียนนี้ เนื้อตัวคลุกเคล้าไปด้วยสิ่งปฏิกูลยิ่งพอเห็นน้ำคลำสีดำข่นขลักไหลไปตามแขน อาหารราคาถูกในท้องก็พลอยจะขย้อนออกมา
เสียงฝีเท้าของคนหมู่มากเงียบไปแล้ว ตัดสินใจถอนหายใจแล้วสูดอากาศสกปรกนั้นเข้าไปในปอด กลิ่นของเสียทำให้มึนหัวนิดหน่อย แต่สัญชาตญานการเอาตัวรอดบอกให้เขายังสู้ชีวิตต่อไป
สมองขี้เลื่อยพยายามนึกถึงทางออกไปจากที่นี่ และไม่ลืมที่จะคิดหาทางออกจากวงจรชีวิตเหี้ยๆ นี่
เหมือนเรื่องตลกร้ายชวนหัวเสียเรื่องหนึ่ง ในวันที่พระอาทิตย์สดใสจำได้คร่าวๆ ว่าตื่นมาพร้อมกับความว่างเปล่า และจากนั้นข้อมูลใหม่ก็ถูกแทนที่ด้วยระบบความคิดหนึ่ง เขาชื่อนัมแทฮยอน เป็นคนงานในคฤหาสถ์หลังนั้น เป็นคนคอยสืบข่าว
เหมือนจะเป็นเรื่องง่าย ใช่การสืบข่าวเป็นเรื่องง่าย แต่การเป็นคนที่รู้ 'ข่าว' นั้นมันไม่ง่ายเอาเสียเลย
ยิ่งกับคนที่ไม่รู้ว่าต้องการข่าวนั้นไปทำไมยิ่งไม่เข้าใจกันไปใหญ่
แต่ช่างมันเถอะ
จะอะไรก็ช่าง ขอแค่เขาไม่ตายก็พอ
สองเท้านั้นเหยียบย่ำความโสมมย้อนกลับไปทางเดิมที่จำได้ลางๆ ว่าผ่านมาทางนี้ เขาจำไม่ได้ว่าที่นี่ที่ไหนและนึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนต่อ แต่การออกจากที่นี่เป็นสิ่งแรกที่เขาคิดถึง มองเห็นกำแพงสูงตรงหน้าก็พอจำได้ว่าตนปีนมันเข้ามาในดงขยะนี้ เหลียวย้อนไปมองทางด้านหลังก็เห็นเป็นตาข่ายลวดสูงเกือบสิบเมตร ไม่แน่ใจนัก แต่คิดว่าที่นี่น่าจะเป็นที่ทิ้งขยะรอกำจัดเขตนอกเมือง
ปีนกลับทางที่ปีนเข้ามาน่าจะเป็นความคิดที่ดีที่สุด
มือหยาบกร้านกระโดดคว้าขอบกำแพงปูนหยาบที่ไม่ผ่านการโอบฉาบใดๆทั้งนั้น หินเล็กๆ ที่แตกร่อนตามกาลเวลาทำให้มือได้รับบาดแผลแต่เขาไม่ได้ใจเสาะพอที่จะมาโอดครวญว่าเจ็บปวด ความสูง 2.5 เมตรไม่ได้เหนือบ่ากว่าความสามรถ
ขายาวพาดข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งของกำแพง ความโล่งใจระดับหนึ่งที่ไม่เห็นใครอยู่ด้านล่างทำให้เขาเบาใจ กระโดดลงมาสู่พื้นหญ้าเตี้ยตามแรงโน้มถ่วง มองมือเท้าและตัวของตัวเองได้แต่เวทนาอยู่เงียบๆ
ให้ตายเถอะ ทุเรศที่สุด
เขามองผ่านพุ่มไม้เตี้ยไปยังถนนทางหลวงแผ่นดินที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล คงไม่มีใครรับเขาขึ้นรถด้วยสภาพนี้แน่ๆ แต่เอาวะ ลองเสี่ยงดูสักนิด
แต่ก็นะ
คิดอยู่แล้วล่ะว่าพระเจ้าคงไม่ชอบใจเขาอยู่มาก
"ไง" น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยทักทาย แต่ทำไมนะ ทำไมเขาถึงคิดว่าน้ำเสียงนั้นมันแสลงหูเหลือเกิน "ไปด้วยกันดีๆ น่าจะดีกว่านะ วิ่งไปวิ่งมาเหมือนเล่นซ่อนแอบสมัยอายุ 10 ขวบแบบนี้ไม่แฮปปี้เลยว่ะ"
"..." หึ หนียังไงก็คงจะไม่รอดสินะ
"ไปคุยกับนายดีๆ"
"มันมีด้วยเหรอ" ปรายตามองอย่างไม่เข้าใจในคำพูด "มันมีคำว่าพูดดีๆ กับคนที่เขาคิดว่าผิดด้วยเหรอ?"
"ถ้าไม่ผิดแล้วมึงจะหนีทำไม?"
"ไม่เกี่ยวว่ากูจะผิดไม่ผิด แต่เมื่อเขาคิดว่ามันผิดกูก็ต้องผิด" ความแข็งกระด้างแบบที่ไม่ได้เจอบ่อยๆ จากสายตาเรียบนิ่งคู่นี่ทำให้อีกคนถึงกับต้องเสมองทางอื่น "มึงเองก็รู้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่มันอยู่ที่ว่าเขาได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เขาพอใจหรือไม่พอใจ"
"ไปกับกู" เสียงถอนหายใจเบาๆ ปล่อยออกมาอย่างเหลืออด "ถ้ามึงรอดกูก็ไม่รอด แต่ถ้ามึงกลับไปตอนนี้มันอาจจะรอดทั้งกูทั้งมึง"
--------------------------------------
"หืม? มาแล้วเหรอ" ใบหน้าคมผินมามองนัมแทฮยอนที่ยืนตัวลีบเล็กอยู่หน้าโต๊ะ เขาแต่งตัวใหม่ในชุดที่เรียบร้อยกว่าเดิม อาบน้ำสะอาดสะอ้านเพื่อให้เกียรติผู้เป็นนาย
อยากจะเสตามองไปทางอื่นเมื่อเหตุการณ์ตรงหน้าถูกฉายเข้ามาในโสตและจักษุ ผู้หญิงราคาแพงในหนึ่งคืนกำลังออรัลเซ็กส์ให้กับเจ้านายของเขา เจ้าหล่อนดูสนุกสนานจนลืมเอียงอายผู้มาใหม่อย่างเขา รวมไปถึงเจ้านายที่ไร้ยางอายที่นั่งอ้าขาอย่างสบายอารมณ์
"ไอ้สวะนั่นได้อะไรไปบ้างล่ะ"
"แหล่งเก็บยาของสน.เมียงดงที่เพิ่งขนย้ายไปครับ"
"เล่ามาให้หมด"
"..."
"แล้วฉันจะพิจารณาชีวิตแก"
"ข้อมูลผู้กำกับยูจินที่เป็นสายให้เรา และสูตรยาที่เราทดลองยังไม่สำเร็จครับ"
"อืม ก็ได้ไปเยอะพอควร" ซงมินโฮหลับตาลงเบาแล้วกัดปากล่างด้านในอย่างระงับอาการเสียวซ่าน รัญจวนจนไม่อยากผลักไส แต่ดูเหมือนว่าเรื่องที่กำลังคุยอยู่นี่คงไม่จบภายในสองสามนาทีนี้แน่ "ออกไปรอด้านนอกก่อนนะ" กระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล สาวเจ้าปรือตาเหมือนยั่ว แพขนตาเปื้อนหยาดน้ำตาช่างน่าขยี้ให้จมเขี้ยว
หล่อนถอนปากออกอย่างอ้อยอิ่ง จัดการกับตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินออกไปอย่างรู้ตัว
"มีอะไรจะพูดกับฉันมั้ย?" น้ำเสียงนั้นหยั่งเชิง และให้ความหวัง นัมแทฮยอนที่ดูตื่นกลัวห้องมืดแสงสลัวแห่งนี้เหมือนจะเริ่มมองเห้นประตูและแสงไฟที่กลางห้อง
"ได้โปรดไว้ชีวิตผม" แทบไม่ต้องคิด ไม่มีอะไรที่เขารักมากกว่านี้แล้ว เขามีชีวิตอยู่เพื่อรักชีวิตเท่านั้น
"หึหึ" รอยยิ้มเหยียดหยันปรากฎอยู่บนดวงหน้าผู้เป็นนาย "แลกกับอะไรดีล่ะ"
"อะไรก็ได้ที่นายต้องการ" เสียงนั้นชัดเจนและหนักแน่นจนน่าประทับใจ
"ฉันจะต้องการอะไรอีกกล่ะ" แขนแข็งแกร่งนั่นผายออกอย่างโอ้อวด ใช่สินะ คนที่มีเพียบพร้อมทุกอย่างอย่างคนตรงหน้าอย่างเขาจะต้องการอะไรอีก
"..."
"คิดอะไรสักหน่อยสิ"
"เซ็กส์"
"หืม?"
"ตอนนี้ นายต้องการเซ็กซ์" คำตอบนั้นทำให้ซงมินโฮยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
"เอาสิ" เป็นการตอบรับที่ท้าทายทีเดียว "มานี่"
แทฮยอนเดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย ไม่มีอะไรน่าอายหรอก ไม่มีอะไรไร้ศักดิ์ศรีด้วย สิ่งเดียวที่ต้องรักษาเอาไว้คือชีวิต คุกเข่าลงกับหหว่างขานั้น เขาไม่เคยกับผู้ชายด้วยกันแต่ก็พอจะรู้ว่าต้องทำยังไง เขาบรรจงครอบปากลงไปช้าๆ คับแน่นจนเจ็บที่มุมปาก รูดรั้งมันขึ้นลงช้าๆ อย่างไม่รู้จังหวะในคราแรก และเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นเผื่อผู้เป็นนายจะรู้สึกสุขไปกับมัน นิ้วเรียวยาวนั้นกอบกุมไปตามส่วนโคน พยายามโน้มตัวลงให้ต่ำและดันมันเข้าไปให้ลึกที่สุด แต่มันไม่พอดีเอาเสียเลย มันเกินกว่าที่ปากเขาจะรับได้ แต่ด้วยทิฐิเขากลับไม่ปล่อยมันออกแม้จะผะอืดผะอมเพียงใด
ซงมินโฮทัดผมยาวที่ปรกหน้าเหน็บเข้าที่ใบหู
"เด็กน้อย" นิ้วยาวไล้ไปตามกรอบหน้า ไล้ลงไปตามลำคอระหง
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามันผอมกว่าที่คิด แต่คิดอีกที...
ปล่อยให่มันโตไปกว่านี้ก็ไม่ดีหรอก
ฉึก
"อั่ก อะ " มือขยุ้มผมด้านหน้าของมันให้แหงนขึ้นจากกามกิจ เลือดที่ไหลลงมาตามมุมปากคละเคล้าไปกับน้ำรักขาวขุ่น ดวงตาเบิกโพลงของเฮือกสุดท้ายของชีวิตนั้นช่างน่าขบขันลูกตานัก
มินโฮค่อยๆ บรรจงกรีดมีดแหลมคมกริบไปตามแนวคอใต้สันกราม เลือดโง่ๆ ไหลลงอาบมีดและมือ กลิ่นเลือดตีคลุ้งไปทั้งจมูก แต่เขาไม่ได้รู้สึกขลาดกลัว นั่นสิ มีแต่คนขี้ขลาดเท่านั้นแหละที่กลัวของเหลวสีแดงไร้สาระแบบนี้
"นะ นา ย..." นั่นคือเสียงสุดท้ายที่มันได้สิทธิ์พูด ก่อนลมหายใจเน่าๆ นั่นจะหายไปจากโลกใบนี้
รอยมีดไม่เคยทำให้ผิดหวัง ลูกกระเดือกที่เปิดอ้าทำให้เขายิ้มย่อง
โอบอุ้มร่างไร้วิญญาณที่ยังลืมตาโพลงมาวางไว้บนโต๊ะแก้ว จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างนั้นด้วยความชอบใจ สิ่งที่เขาต้องการงั้นหรือ เซ็กส์ที่เขาอยากได้งั้นสิ
นี่แหละ
ได้ทั้งเซ็กส์ที่วิเศษ และชีวิตของมัน
ร่างกายขาวซีดปรากฎอยู่ตรงหน้าช่างกระตุ้นกำหนัดได้อย่างดี มือหยาบลูบไล้ไปตามหน้าท้องเรียบแบน กล้ามเนื้อน้อยๆ เห็นเป็นลอนคลื่นจางๆ เด็กน้อยที่เขาเจออยู่หน้าบ้านวันนั้นโตขนาดนี้แล้วสินะ
เลือดสีจางไหลออกมาตามรอยฉีกขาดของทวาร
มินโฮไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องใบหน้าซีดที่ดวงตายังลืมอยู่ท้าทายอำนาจ ไล่ลงมาเชยชมผลงานการกรีดของเขาอย่างภาคภูมิใจ
เสือกไสกายเข้าออกอย่างเป็นสุขก่อนจะพ่นน้ำขาวขุ่นเข้าไปในช่องทางนั้นอย่างจงใจทำ
"อ่าห์" เสียงนั้นฟังดูมีความสุขเสียเต็มประดา
จัดการหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดตัวเอง ยิ่มกระหย่องในใจ ลืมไปเสียสนิทว่ามีนัดกับแม่สาวคัพดีคนก่อนหน้านี้ ปรายตามองร่างผอมๆ บนโต๊ะอีกครั้งหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
"มาเอาไปทิ้งหน่อยสิ"
-----------------------------
"รายงานสด ณ ริมแม่น้ำฮานาค่ะ ตอนนี้ร่างของผู้เสียชีวิตได้ถูกเคลื่อนย้ายไปแล้วค่ะ ติดตามการชันสูตรศพเพื่อไขปริศนาครั้งนี้ได้จาก KBS ที่นี่ค่ะ"
"จากการให้สัมภาษณ์จากหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษตอนนี้เราทราบและนะคะว่าผู้ตายเป็นใคร บุตรชายของท่านนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นัม แท ฮยอน ซึ่งได้หายตัวไปเมื่อเก้าปีที่แล้ว..."
"นับว่าเป็นเหตุการณ์น่าสลดเหตุการณ์หนึ่งของชาวเกาหลีเลยก็ว่าได้นะคะ..."
"ตอนนี้ตำรวจกำลังสืบหาตัวคนร้าย เบื้องต้นคาดว่า..."
END
Comments
Post a Comment